การชุบทองมีประโยชน์อย่างไร ?

1.ทำให้ชิ้นงานมีความคงทนสวยงาม ลดการหมองคล้ำช้าลง ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการหมองคล้ำ คือ การทำปฏิกิริยากับอากาศ เหงื่อ หรือกรดด่าง

2.ช่วยให้ได้สีของชิ้นงานที่ต้องการในราคาที่ถูก เช่น หากอยากได้กำไลชุบทองแต่งบประมาณไม่ถึง ก็สามารถใช้ตัวชิ้นงานเงินชุบทองแทนได้ หากมีการใช้งานไปนานๆ สีที่ชุบจะค่อยๆ ซีดไปกลับไปสีตามเดิม แต่เราสามารถนำกลับมาชุบได้เรื่อยๆ

หากทำการชุบชิ้นงานแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน ?

โดยหากนำชิ้นงานมาชุบ เมื่อผ่านการใช้งานเวลานานๆ จะทำให้สีและความเงางามลดลงไปมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการสวมใส่ และการดูแลรักษาของเจ้าของด้วย ซึ่งหากเก็บรักษาดี ความเงางามของตัวชิ้นงานก็อาจจะอยู่ได้ 1-2 ปีเลยทีเดียว

การดูแลการรักษาเครื่องประดับที่ผ่านการชชุบไฟฟ้า ?

1.หากเป็นการชุบเงินธรรมดา ข้อดีคือจะทำให้ผิวชิ้นงานมีความแววสวยงาม สีค่อนข้างขาว แต่ก็มีข้อเสียคืออยู่ได้ไม่ทนทาน และเมื่อใช้หรือทิ้งไว้เฉยๆจะกลับมาดำได้ง่าย ทำให้ต้องล้างหรือขัดน้ำยาล้างเครื่องประดับบ่อยๆ ก็จะทำให้สวยเหมือนใหม่ได้

2.หากเป็นการชุบโรเดียมหรือชุบทองคำขาว ข้อดีคือสีที่ได้จะออกมาเป็นสีทองคำขาว โดยสีของเครื่องประดับจะเป็นสีออกเทาๆ แวววาว ไม่ขาวโพลนเหมือนการชุบเงินธรรมดา โดยการชุบแบบนี้จะติดทน และจะมีการหมองช้ากว่าการชุบเงินธรรมดามาก โดยสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆ เพียงแค่ล้างด้วยยาสีฟันและขัดด้วยแปรงนุ่มๆ จากนั้นเช็ดให้แห้ง เครื่องประดับก็จะกลับมาใหม่และสวยเหมือนเดิม

3.หากว่าเป็นการชุบทอง ข้อดีคือสีจะได้ออกมาเป็นสีเหมือนทอง 100% การดูแลรักษา ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสเปรย์ น้ำหอม น้ำมะนาว หรือสารเคมีอื่นๆ หากสร้อยมีสีคล้ำดำที่เกิดจากเหงื่อ  ควรล้างด้วยน้ำยาล้างจานจะทำให้เครื่องประดับกลับมาเงางาม ไม่ควรใช่สบู่ล้าง เพราะสบู่มีส่วนผสมของไขมัน การเก็บรักษา ควรเก็บใส่กล่อง หรือถุงซิปล็อกที่ไม่มีอากาศเข้า (แยกเป็นชิ้นต่อชิ้น เพื่อลดการเสียดสีกันเอง)